Purpose: The purpose of this study was to explore participants’ attitude toward aerobic dance exercise and to determine factors influencing participation in this activity.
Methods: Participants were 14 volunteered females, ranging of ages between 25 – 61 years, who attended aerobic dance sessions regularly at a public park. Criteria for selecting participants included, having 1 year of experience in aerobic dance exercise, attending aerobic dance sessions at least 3 times a week, and having the same life style during data collection. Data were collected using critical incidence, non-participant observation, and semi-structure interview. Data were analyzed through a constant comparison and triangulated across methods.
Results: Findings indicated three themes. Firstly, participants’ attitude toward aerobic dance before attending the activity was varies (positive, or neutral, or negative). However, after participating in aerobic dance, participants’ attitude changed toward positive. Secondly, attitude had influence on exercise participation behaviors resulting in performing the activity regularly and showing adherence in aerobic dance/exercise. Lastly, factors that had influence on changing participants’ attitude were, (1) gaining better health, (2) having good aerobic dance leaders, (3) dancing with a variety of patterns, (4) using good music, and (5) having convenient transportation.
Conclusion: In summary, participants’ attitude changed toward positive after participating in aerobic dance which resulted in regularly exercise. Thus, aerobic leaders should pay more attention on improving related factors in order to help participants to positively change their attitude.
วัตถุประสงค์ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเจตคติในการเข้าร่วมเต้นแอโรบิกและปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าร่วมเต้นแอโรบิก
วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างคืออาสาสมัครหญิงที่เข้าร่วมเต้นแอโรบิกที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง จำนวน 14 คน อายุระหว่าง 25 – 61 ปี โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกจากผู้เต้นที่มีประสบการณ์การเต้นแอโรบิก อย่างน้อย 1 ปี เข้าร่วมเต้นแอโรบิกสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ และเป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติในช่วงที่ดำเนินการวิจัย ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการบรรยายเหตุการณ์สำคัญ การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วมและการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการเปรียบเทียบความคงที่ของข้อมูล และตรวจสอบความเชื่อถือได้ของข้อมูลด้วยวิธีการสามเส้า
ผลการวิจัย ผลการศึกพบประเด็นสำคัญ 3 หัวเรื่อง คือ หัวเรื่องแรก กลุ่มตัวอย่างมีเจตคติก่อนการเต้นแอโรบิกหลากหลาย (เป็นบวก เป็นกลาง และเป็นลบ) อย่างไรก็ตาม หลังการเข้าร่วมเต้นแอโรบิก เจตคติของกลุ่มตัวอย่างมีแนวโน้มไปในทางบวก หัวเรื่องที่สอง เจตคติมีผลต่อพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายของกลุ่มตัวอย่างส่งผลให้มีความสม่ำเสมอในการเข้าร่วมกิจกรรม และติดการเต้น/การออกกำลังกาย หัวเรื่องสุดท้าย ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเจตคติมี 5 ข้อ คือ (1) การมีสุขภาพดีขึ้น (2) ผู้นำเต้นเก่ง (3) ท่าเต้นแปลกใหม่ (4) เพลงประกอบดีและ (5) การเดินทางสะดวก
สรุปผลการวิจัย กล่าวโดยสรุป กลุ่มตัวอย่างเปลี่ยนแปลงเจตคติไปในทางบวกหลังจากที่เข้าร่วมเต้น
แอโรบิกส่งผลให้มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ผู้นำเต้นแอโรบิกควรให้ความสำคัญต่อการที่ จะพัฒนาปัจจัยเกี่ยวข้องให้ดีขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเปลี่ยนแปลงเจตคติไปในทางบวก