~~Introduction: Psychological momentum in sports (PM) like a force that flows during a competition, the energy is not something that is visible but is palpable. PM may be capable of predicting which team will win or lose. More importantly, PM can occur at any time, with any team, and it changes all the time. Therefore to build and control PM may be the key to be more successful in competition. 
Discussion: Psychological momentum is a phenomenon which occurs during an event. This phenomenon may influence cognitive processes, emotions, and behavior. These sequences can have a positive or negative effect on performance. Three theories have been proposed to explain PM 1) Antecedentes- consequences model, 2) Multidimensional model, and 3) Projected performance model. Currently, there are 2 books (Tennis and football) that apply psychological momentum concept in competition. The research that involves PM, which focuses on the factors involved with the perception of the PM experience both of positive and negative, and the process to construct and control PM in football, table-tennis, volleyball, and cycling.
Conclusion: The phenomenon of PM in sports is not yet fully explained scientifically. The factors that effect psychological momentum, either positively or negatively were not clear and dynamic changing all the time. However, coaches and athletes are currently inclined to accept PM as a real phenomenon and are using the concept in competition. Psychological momentum is an intriguing concept and deserves further study and research.

~~บทนำ: โมเมนตัมทางจิตใจในการกีฬา (PM) เปรียบเสมือนแรงที่ผลักให้เกมลื่นไหล โดยเป็นแรงที่ซ่อนอยู่ มองไม่เห็นแต่มีพลัง และสามารถใช้ในการบ่งชี้ได้ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะหรือแพ้ ที่สำคัญจะเกิดขึ้นกับทีม ณ เวลาใดก็ได้ พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การสร้างและการควบคุมโมเมนตัมทางจิตใจให้อยู่กับทีมได้ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ทีมนั้นมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า
อภิปราย: โมเมนตัมทางจิตใจ หมายถึง “ปรากฏการณ์ที่มีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งหรือหลายๆ เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นแล้วส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก พฤติกรรม จนเป็นผลให้ความแสดงความสามารถเปลี่ยนแปลงอย่าง ชัดเจน โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นอาจส่งผลในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงก็ได้” ทฤษฏีที่นำมาใช้อธิบายโมเมนตัมทางจิตใจ มี 3 ทฤษฏี ได้แก่ 1) ทฤษฏีการเกิด–ผลที่ตามมา 2) ทฤษฎีโครงสร้างหลายมิติของโมเมนตัม 3) ทฤษฏีการสะท้อนกลับของการแสดงความสามารถ ปัจจุบันมีหนังสือ 2 เล่ม (เทนนิสและฟุตบอล) ที่นำแนวความคิดโมเมนตัมทางจิตใจ ในการแข่งขันไปประยุกต์ใช้ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโมเมนตัมทางจิตใจได้มุ่งที่การศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์การรับรู้โมเมนตัมทั้งในทางบวกและทางลบ และกระบวนการสร้างและการควบคุมโมเมนตัมในกีฬาฟุตบอล เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอล และจักรยาน
สรุป: โมเมนตัมทางจิตใจในแข่งขันการกีฬา ยังคงเป็นปรากฏการณ์ที่อธิบายได้ยากในเชิงวิทยาศาสตร์ ตัวแปรที่ทำให้เกิดโมเมนตัมทางบวกหรือทางลบยังไม่ชัดเจน และเป็นพลวัติมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็ยอมรับว่าปรากฏการณ์นี้มีอยู่จริงและมีการนำไปประยุกต์ใช้ ดังนั้นปรากฏการณ์โมเมนตัมทางจิตใจในการแข่งขันกีฬาจึงยังเรื่องที่น่าสนใจควรทำการศึกษาและวิจัยต่อไป